วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2559

เห็ดหลินจือและสรรพคุณ

      เห็ดหลินจือ (อังกฤษLingzhi) เป็นยาจีน (Chinese traditional medicine) ที่ใช้กันมานานกว่า 2,000 ปี นับตั้งแต่สมัยจักรพรรดิฉินซีฮ่องเต้เป็นต้นมา เห็ดหลินจือเป็นของหายากมีคุณค่าสูงในทางสมุนไพรจีน และได้ถูกบันทึกไว้ในคัมภีร์โบราณ “เสินหนงเปินเฉ่า” ซึ่งเป็นตำราเก่าแก่ที่สุดของจีนมีคนนับถือมากที่สุด ได้กล่าวไว้ว่า เห็ดหลินจือเป็น “เทพเจ้าแห่งชีวิต” (Spiritual essence) มีพลังมหัศจรรย์ บำรุงร่างกายใช้เป็นยาอายุวัฒนะในการยืดอายุออกไปให้ยืนยาว ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และยังสามารถรักษาโรคต่าง ๆ ได้อย่างกว้างขวาง ชาวจีนโบราณต่างยกย่องเห็ดหลินจืออย่างเหนือชั้น ว่าดีที่สุดในหมู่สมุนไพรจีน นอกจากจะมีสรรพคุณเหนือชั้นกว่าแล้วยังปลอดภัยไม่มีพิษใด ต่อร่างกาย
      สรรพคุณ 
ในสมัยโบราณ กล่าวกันว่า เห็ดหลินจือทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงขึ้น ให้พลังชีวิตมากขึ้น ใช้บำรุงร่างกาย เป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้มีกำลัง ทำให้ความจำดีขึ้น ทำให้ประสาทสัมผัสต่าง ๆ ชัดเจนดีขึ้น ส่งเสริมการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสีหน้าแจ่มใส ชะลอความแก่ ส่วนสรรพคุณอื่นๆที่ได้รวบรวมไว้ได้แก่ รักษาและต้านมะเร็ง รักษาโรคตับ ความดันโลหิตสูง ขับปัสสาวะ ปรับความดันโลหิตทั้งสูงและต่ำ ภาวะมีบุตรยาก การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ โรคภูมิแพ้ โรคประสาท ลมบ้าหมู เส้นเลือดอุดตันในสมอง อัมพาต อัมพฤกษ์ ปวดเมื่อย ปวดข้อ โรคเกาต์ โรคเอสแอลอี เส้นเลือดหัวใจตีบ ตับแข็ง ตับอักเสบ ปวดประจำเดือน ริดสีดวงทวาร อาหารเป็นพิษ แผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ บำรุงสายตา และความเชื่อดังกล่าว ยังคงสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน
เห็ดหลินจือได้ถูกบันทึกไว้ว่า มีขึ้นอยู่ตามธรรมชาติมาก กว่า 100 สายพันธุ์ และสำหรับสายพันธุ์ที่นิยมมีสรรพคุณทางยาดีที่สุดคือ กาโนเดอร์ม่า ลูซิดั่ม (Ganoderma lucidum) หรือสายพันธุ์สีแดง
เห็ดหลินจือมีสารโพลีแซคคาไรด์ ซึ่งเป็นสารยับยั้งอาการต่างๆ ข้างต้น เห็ดหลินจือในแต่ละชนิดจะมีปริมาณสารโพลีแซคคาไรด์ในปริมาณที่แตกต่างกัน แต่สายพันธุ์ที่มีสารโพลีแซคคาไรด์มากที่สุด คือ เห็ดหลินจือสีแดง ซึ่งมีงานวิจัยต่างๆ พบว่ามีสารโพลีแซคคาไรด์มากที่สุดในบรรดาเห็ดหลินจือทั้งหมด
ปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับ เห็ดหลินจือออกมาจำหน่ายกันเป็นจำนวนมาก การเลือกผลิตภัณฑ์ เห็ดหลินจือแดงควรศึกษาตั้งแต่วิธีการเพาะปลูก ซึ่งเป็นกระบวนการที่สำคัญ เพราะการจะได้เห็ดหลินจือที่มีคุณภาพที่ดีนั้น ตัวเห็ดหลินจือเอง จะต้องได้รับการเพาะเลี้ยงในสภาวะที่เหมาะสม ทั้งในเรื่องความชื้น แสงสว่าง และสารอาหารที่ได้รับ ส่วนขั้นตอนการแปรรูป ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ เพราะถือเป็นกระบวนการที่จะสกัดสารโพลีแซคคาไรด์จากตัวเห็ดเองออกมาให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้การบรรจุภัณฑ์ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องให้ความสนใจไม่แพ้กัน ควรเป็นบรรจุภัณฑ์ที่สามารถกันความชื้นได้ดี เพราะว่าความชื้นจะทำให้เห็ดหลินจือขึ้นราได้ เนื่องจากเห็ดหลินจือค่อนข้างไวต่อความชื้น
สรรพคุณของเห็ดหลินจือช่วยบำรุงตับ และรักษาโรคตับ ตับแข็ง ตับอักเสบ แต่มีรายงานทางการแพทย์หลายกรณี ว่า ส่งผลให้ตับอักเสบได้ โดยเฉพาะผู้ผลิตและปลูกโดยไม่มีความรู้ด้านวิศวกรรมเคมียาตะวันออกโบราณอันลี้ลับของการใช้เห็ดหลินจือเป็นแกนดูดซับตัวยาอื่นในการบำรุงตับที่แท้จริงกว่า 4000ปีในภูมิปัญญาตะวันออก ดังนั้นแพทย์โรคเบาหวานจึงพบผู้ป่วยเป็นโรคตับอยู่บ่อยครั้งในผู้ป่วยที่ไม่ได้รับประทานเห็ดหลินจือยี่ห้อที่มีสถิติลดเบาหวานได้สูง และควรระมัดระวังการใช้เป็นอย่างมากในผู้ป่วยที่เป็นไวรัสตับอักเสบที่มีการติดต่อทางน้ำลาย ทางที่ดีผู้รับประทานควรตรวจเลือดหาไวรัสตับอักเสบก่อนรับประทาน หรือไปบริจาคเลือดบ่อยๆ แล้วขอดูผลเลือด
ประโยชน์ของเห็ดหลินจือ สรรพคุณของเห็ดหลินจือเห็ดหลินจือสรรพคุณใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย ช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สีหน้าแจ่มใส ช่วยบำรุงและรักษาสายตา สรรพคุณเห็ดหลินจือใช้เป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยทำให้อายุยืนยาว ช่วยชะลอแก่ ชะลอวัย ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายแข็งแรง ช่วยทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงขึ้น ให้พลังชีวิตมากขึ้น ช่วยส่งเสริมระบบการไหลเวียนของเลือดให้ดียิ่งขึ้น ช่วยทำให้ความจำดีขึ้น ช่วยผ่อนคลายระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ทำให้นอนหลับได้สนิท ช่วยทำให้ประสาทสัมผัสต่างๆ ดีขึ้น สรรพคุณช่วยรักษาและต่อต้านมะเร็ง โดยส่งเสริมภูมิคุ้มกัน กระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวสร้างสารต้านมะเร็ง ช่วยแก้พิษจากรังสี คีโม เช่น เม็ดเลือดขาวต่ำจากคีโม ท้องเสียอักเสบจากการฉายรังสี อาการปวดจากพิษบาดแผล ช่วยลดความดันโลหิตและรักษาโรคความดันโลหิตสูง ช่วยปรับความดันโลหิตทั้งสูงและต่ำให้สมดุล ช่วยรักษาโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ช่วยป้องกันเส้นเลือดในสมองและหัวใจอุดตัน ป้องกันอัมพฤกษ์ อัมพาต ช่วยลดไขมันในเลือด ช่วยรักษาและบรรเทาอาการของโรคหมอนรองกระดูกแตกกดทับเส้นประสาทให้ทุเลายิ่งขึ้น ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยควบคุมอาการเบาหวาน ช่วยรักษาโรคภูมิแพ้ หอบหืด ช่วยรักษาโรคประสาท สรรพคุณของเห็ดหลินจือช่วยบำรุงตับ และรักษาโรคตับ ตับแข็ง ตับอักเสบ เห็ดหลินจือรักษาโรคไตเรื้อรังบางชนิด โดยช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพการทำงานของไตให้ดีขึ้น ประโยชน์ของเห็ดหลินจือช่วยรักษาโรคลมบ้าหมู ช่วยแก้อาการอาหารเป็นพิษ ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ ประโยชน์เห็ดหลินจือช่วยขับปัสสาวะ ช่วยรักษาและบรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวาร ช่วยแก้อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดตามข้อ ประโยชน์ของเห็ดหลินจือช่วยรักษาโรคเกาต์ ช่วยสลายใยแผลเป็น หรือพังผืดหดยืด ทำให้ในแผลเป็นอ่อนนิ่มและหดตัวเล็กลง ช่วยยับยั้งเชื้อไวรัส อย่าง ไวรัสเอดส์ อีสุกอีใส งูสวัด ช่วยรักษาโรคลูปัส อีริทีมาโตซัสวร่าง (SLE) หรือโรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานผิดปกติ ช่วยแก้อาการป่วยบนที่สูง เช่น อาการหูอื้อ ช่วยรักษาโรคที่มีสาเหตุมาจากการขาดออกซิเจน เช่น ถุงลมโป่งพอง หัวใจล้มเหลว เส้นเลือดหัวใจตีบ ช่วยแก้อาการปวดประจำเดือน ช่วยแก้ปัญหาภาวะมีบุตรยาก ช่วยป้องกันการเสื่อมสรรถภาพทางเพศ เห็ดหลินจือจัดเป็นสเตียรอยด์ธรรมชาติ ซึ่งไม่มีสารพิษหรือผลข้างเคียงเหมือนกับสเตรียรอยด์สังเคราะห์





แหล่งข้อมูล/ที่มา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น